ช่วงแรกๆที่เราไปอยู่ที่นั่น ก็กลัวว่าจะเข้ากับโฮสแฟมไม่ได้ แต่พอนานๆไป ทำให้เราปรับตัว กล้าที่จะคุย กล้าที่จะปรึกษากับเขา ซันจะสนิทกับโฮสมัมเป็นพิเศษค่ะ มีอะไรก็จะคุยกับเขาตลอดเลยค่ะ ช่วงไหนที่เขารู้สึกว่าเราดาวน์ เขาก็จะเข้ามาหามากอดตลอด อีกอย่างเขามีลูกชายถึง2คน เขามองซันเป็นลูกสาวคนนึงของเขาเลยล่ะค่ะ ช่วงอาทิตย์แรกที่ซันได้เดินทางไปถึงอเมริกา ช่วงนั้นซันโฮมซิกหนักมาก คิดถึงที่บ้านมากๆเลยค่ะ อาจจะเป็นเพราะอาทิตย์นั้นไม่ได้ไปไหนเลย โรงเรียนที่นั่นก็ยังไม่เปิดเทอม โฮสมัมก็เป็นคนที่คอยมาคุยด้วยค่ะ พอผ่านไปสักพัก เริ่มเปิดเรียน ซันก็เริ่มที่จะปรับตัวได้ ที่เป็นปัญหาสำหรับซันน่าจะเป็นการเข้าสังคมกับเพื่อนที่โรงเรียน ส่วนมากซันจะสนิทกับเพื่อนที่เป็นคนแลกเปลี่ยนด้วยกันค่ะ เพื่อนๆที่เป็นคนในพื้นที่ก็ไม่ค่อยได้hangoutด้วยกันสักเท่าไหร่ พวกนักเรียนแลกเปลี่ยนจะชอบจับกลุ่มอยู่ด้วยกันเองค่ะ พูดคุยเกี่ยวกับประเทศและเมืองของตนเอง นั่นทำให้ซันชอบการที่ได้อยู่ร่วมกับเพื่อนๆต่างสัญชาติค่ะ แต่ก็มีช่วงนึงที่ซันรู้สึกว่าที่นี่มันไม่ค่อยเหมาะกับเรา เรารู้สึกว่าเราอยู่คนเดียว เราไม่มีเพื่อนที่เป็นคนอเมริกันเลย มันทำให้ช่วงนึงซันรู้สึกดาวน์และมีความคิดที่อยากจะย้ายโรงเรียนค่ะ เพราะส่วนมากแล้วคนที่นี่ก็จะอยู่กันเป็นกลุ่มที่สนิทกันอยู่แล้ว หลังๆมา ซันพยายามลองทักเพื่อนๆในคลาส อีกทั้งชวนคุย ซันรู้สึกว่าการที่เราชวนคุยเป็นสิ่งที่ดีกว่าการที่เรารอคนอื่นเข้าหาเราเอง ทั้งนี้ทั้งนั้น โดยส่วนตัวซันเอง ซันชอบที่จะอยู่กับโฮสแฟมมากกว่าค่ะ ได้ดูหนังด้วยกันในคืนวันศุกร์หลังจากซื้อของที่วอลมาร์ทก็เป็นวันที่ลงตัวมากๆแล้วล่ะค่ะ อีกอย่าง โฮสแฟมของซันเลี้ยงแมวตั้ง5ตัว และหมาอีก1ตัว วันๆนึงที่อยู่บ้านคือไม่มีเบื่อเลยค่ะ อีกอย่างคือซันก็เป็นคนที่ไม่ค่อยชอบออกไปเที่ยวที่ไหนอยู่แล้วด้วย อยู่ด้วยกันซันก็จะชอบช่วยโฮสมัมทำมื้อเย็นค่ะ สิ่งเล็กๆเท่านี้ก็ทำให้ซันมีความสุขกับการที่ได้อยู่บ้านกับโฮสแล้วค่ะ
เอ็ดยูดีขอขอบคุณน้องซัน ณัฏฐณิชา ตั้งไทยขวัญ จากโรงเรียนสายปัญญารังสิต นักเรียนแลกเปลี่ยนเอ็ดยูดี ปี 2019-2020 ที่ร่วมแชร์ประสบการณ์ดีๆนี้นะคะ